Firefox 74 ใช้ TLS 1.2 เป็นค่าเริ่มต้นและนำเข้าข้อมูลจาก Edge ได้แล้ว

Firefox 74 นี้มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากไม่มายเท่าไหร่นัก มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

ปิดการใช้งาน TLS รุ่นที่ต่ำกว่า 1.2 เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงช่องโหว่ของใบรับรองรุ่นเก่า ๆ ที่มีแนวโน้มว่าอาจถูกเจาะได้ในอนาคต

ใน Firefox Lockwise ตอนนี้สามารถกดเรียงลำดับจากตัว Z ไปยัง A ได้แล้ว (แค่นี้แหละ)

นำเข้าที่คั่นหน้าและประวัติจาก Microsoft Edge ตัวใหม่ที่ใช้ Chromium ได้แล้ว

ส่วนการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ก็มี

  • ส่วนขยายที่โปรแกรมบางตัวแอบติดตั้งมาให้ ตอนนี้เราสามารถเอาออกได้จากหน้า about:addons ได้เลย
  • ใช้ Ctrl+I ในการดูข้อมูลหน้าบน Windows หลังจากที่รุ่นก่อนๆ ใช้คีย์ลัดนี้เป็นการเปิดดูแถบข้างของที่คั่นหน้า

และยังมีอีกเพียบ ลองตามอ่าน Firefox 74 for developers และเว็บเพื่อนบ้าน

สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูรายละเอียดฉบับเต็มได้จาก Firefox Release Notes (Desktop)

Firefox 73 ซูมซูม ?

มาตามนัดกับ Firefox 73 รุ่นนี้เน้นเรื่องซูม จากเดิมที่เราสามารถซูมเข้า-ออกได้แค่เว็บที่เราเข้า แต่ถ้าเกิดว่าจอเราใหญ่ และต้องการขยายข้อความให้ใหญ่ขึ้นกันทุก ๆ เว็บที่เราเข้าเราจะทำไง… คำตอบคือ ไปขยายขนาดอักษรเอา แต่พอมาเป็นรุ่น 73 เขาก็เพิ่มตัวเลือกให้ว่า คุณไม่ต้องขยายอักษรแล้ว แค่ซูมหน้าเว็บก็พอ ค่าเริ่มต้นคือ 100% ปรับขึ้นลงได้ตามใจชอบ แถมมีตัวเลือกว่าจะให้ซูมเฉพาะตัวอักษรหรือทั้งหน้า

เข้าไปที่หน้าการปรับแต่ง about:preferences ไปหัวข้อ ภาษาและลักษณะที่ปรากฏ ก็จะเห็นหัวข้อ ซูม ของผมใช้จอ 27 นิ้ว ซูม 110% เป็นขนาดที่กำลังพอดีสายตาผม

ในส่วนของ DNS over HTTPS ได้เพิ่มบริการของ NextDNS เข้ามานอกเหนือจาก Cloudflare ไว้จะมีโพสต์ถัดไปว่ามันดียังไง อันนี้ผมใช้อยู่ด้วย

รายละเอียดปลีกย่อยก็มี

  • สำหรับผู้ใช้ Windows ที่เปิดโหมดความคมชัดสูง จะใช้วิธีการเพิ่มบล็อคระหว่างตัวอักษรและพื้นหลังเพื่อให้อ่านง่ายขึ้นโดยที่พื้นหลังไม่หายไปเหมือนรุ่นก่อนหน้า
  • ปรับคุณภาพเสียงตอนเร่งหรือลดความเร็วให้ดีขึ้น เป็นเสียงเป็ดน้อยลง อันนี้ผมชอบเพราะปกติเป็นคนชอบเร่งที่ความเร็ว 1.25 ตอนดู Youtube อยู่แล้ว
  • คนที่ใช้แล็ปท็อปที่ใช้ชิปกราฟิก Nvidia ที่ความละเอียดประมาณ 1920×1200 และไดรเวอร์รุ่น 432 ขึ้นไป จะถูกเปิดใช้งาน Webrender ในรุ่นนี้

และยังมีอีกเพียบ ลองตามอ่าน Firefox 73 for developers และเว็บเพื่อนบ้าน

สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูรายละเอียดฉบับเต็มได้จาก Firefox Release Notes (Desktop)

Firefox 72 เปิดใช้ Picture-in-picture บนแมคและลินุกซ์

ออกมาแล้วสำหรับ Firefox 72 รุ่นแรกของปี 2020 หลังจากเปลี่ยนมาใช้ระบบออกรุ่นใหม่ทุกเดือน โดยในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงหลัก 3 อย่าง

  • เปิดใช้ Picture-in-picture บนแมคและลินุกซ์ เท่ากับว่าคุณสมบัตินี้ใช้ได้บน 3 ระบบปฏิบัติการหลักแล้ว
  • การป้องกันการติดตามได้เพิ่มการป้องกัน ลายนิ้วมือดิจิทัล มาในการป้องกันแบบมาตรฐาน
  • เปลี่ยนการขอใช้การแจ้งเตือนของเว็บไซต์จากป็อปอัพ เป็นไอคอนเล็ก ๆ

ภาพที่เล่นควบคู่หรือ Picture-in-picture เข้า Youtube จะเห็นป้ายสีฟ้าอยูในตัวเล่น เมื่อคลิกแล้ววิดีโอจะกระโดดออกมาจากหน้าต่าง ให้เราเลือกย้ายไปอยู่ในมุมในของหน้าจอเราก็ได้

เพิ่มการป้องกันลายนิ้วมือดิจิทัลในการป้องกันแบบมาตรฐาน

การแจ้งเตือนที่รบกวนผู้ใช้น้อยลง

และยังมีอีกเพียบ ลองตามอ่าน Firefox 72 for developers และเว็บเพื่อนบ้าน

สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูรายละเอียดฉบับเต็มได้จาก Firefox Release Notes (Desktop)

Firefox 71 เปิดใช้ Picture-in-picture บนวินโดวส์

Firefox 71 รุ่นสุดท้ายของปี 2019 และเป็นรุ่นแรกที่เปลี่ยนการออกรุ่นใหม่ให้เร็วขึ้นเป็นเดือนละครั้ง (4 สัปดาห์) เท่ากับว่าปลายปีหน้านี้เลขรุ่น Firefox จะอยู่ที่รุ่น 83 ตอนปลายปี ?

แล้วรุ่นนี้มีอะไรใหม่บ้างละ มาดูการเปลี่ยนแปลงเด่นของรุ่นนี้กันดีกว่า

  • หน้า about:config และตัวดูใบรับรองแบบใหม่
  • เปิดใช้งานคุณสมบัติภาพที่เล่นควบคู่ (Picture-in-picture) บน Windows
  • มีโหมด kiosk ที่เรียกร้องกันมานาน

คุณสมบัติภาพที่เล่นควบคู่ (Picture-in-picture) ช่วยให้เราถอดวิดีโอที่อยู่บนเว็บไซต์ มาลอยอยู่ที่สักมุมของหน้าจอเรา ถ้าเข้า Youtbue แล้วเห็นแถบฟ้าที่แบบในรูปล่างก็คลิกใช้งานได้เลยครับ

หน้า about:config ได้ถูกเปลี่ยนจากเทคโนโลยีเก่าอย่าง XUL ไปเป็น HTML + JavaScript ดูใช้งานง่ายขึ้น รองรับโหมดมืด แต่คุณสมบัติบางอย่างก็หายไปเช่น การเรียงลำดับ หวังว่ารุ่นถัดๆ ไปน่าจะใส่เข้ามา

และ about:certificate ท่ีเอาไว้ดูใบรับรองก็ถูกเปลี่ยน โดยตัว viewer ใหม่นี้เคยเป็นส่วนขยายที่ชื่อว่า Certainly Something มาก่อน แล้วทีม Firefox กับนักพัฒนาส่วนขยายตัวนี้ก็เอามันเข้าไปเป็นตัวดูใบรับรองตัวใหม่ซะเลย มีรายละเอียดเยอะขึ้น และเห็นชัดเจนกว่าตัวเก่า

การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ก็มี

  • Firefox Lockwise สามารถเช็คเว็บไซต์ที่มีการรั่วไหลและแจ้งเตือนเรา แถมตรวจสอบ subdomain และใส่ข้อมูลการล็อกอินให้เราอัตโนมัติ
  • ใช้ตัวถอดรหัส mp3 แบบ native ของแต่ละระบบปฏิบัติการ
  • ถ้าเว็บไหนมีการขุดเหรียญดิจิทัล ก็จะมีการแจ้งเตือนให้เรารับรู้

และยังมีอีกเพียบ ลองตามอ่าน Firefox 71 for developers และเว็บเพื่อนบ้าน

สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูรายละเอียดฉบับเต็มได้จาก Firefox Release Notes (Desktop, Mobile)

เอาแม่กุญแจเขียวของ https คืนมาใน Firefox 70 ขึ้นไป ?

ใน Firefox 70 นั้นได้ปรับตัวบ่งบอกว่าเราเชื่อมต่อ https หรือแม่กุญแจเขียวที่เราเห็นกันมานานนม กลายเป็นสีเทาเรียบร้อย บางคนก็ยังไม่ชิน หรือชอบให้มีสีมากกว่าจะได้เห็นชัดดี ดีที่ว่า Firefox มีตัวเลือกให้ปรับได้ โดยเข้าไปที่ about:config

แก้ค่า security.secure_connection_icon_color_gray ให้เป็น false ก็จะได้กุญแจเขียวคืนมา

ถ้าต้องการให้ขึ้นคำเตือนไซต์ที่ไม่เข้ารหัสว่า ไม่ปลอดภัย ก็แค่ไปแก้ insecure_connection_text.enabled ให้เป็น true แค่นี้เว็บนั้นก็โดนประจานแล้ว

และถ้าอยากได้ Extended Validation ก็แก้ค่า security.identityblock.show_extended_validation ให้เป็น true

สำหรับผมแก้แค่กุญแจเขียวกับการประจานเว็บที่ไม่เข้ารหัสก็พอแล้ว ตัว EV ไม่จำเป็นเลย แถมเปลืองพื้นที่ในแถบที่อยู่อีก ?

ที่มา – How to restore the green lock icon in Firefox’s address bar

Firefox 70 มาพร้อมโลโก้ใหม่ และบล็อคโซเชียลในตัว

การเปลี่ยนแปลงเด่นของรุ่นนี้ก็มี

  1. เปลี่ยนโลโก้!
  2. ใน macOS ได้เริ่มการเปลี่ยนไปใช้งาน CoreAnimation แล้ว ทำให้การใช้พลังงานลดลงอย่างมีนัยสำคัญและเร็วขึ้นประมาณ 37% คนที่ใช้ Macbook อยู่คงมีเฮ มันจะไม่เปลืองแบตแล้ว ?
  3. เพิ่มการปิดกั้นตัวติดตามทางสังคมออนไลน์ในโหมดการป้องกันที่มากขึ้น ซึ่งอยู่ในค่ามาตรฐานเลย เท่ากับว่าผู้ใช้ Firefox ทุกคนได้รับการปกป้องเหมือนกันหมด ?
  4. เปิดใช้ WebRender กับผู้ใช้ Windows ที่มีชิปกราฟิคของ Intel ที่ความละเอียดไม่เกิน 1920×1200 

หลังจากปรับรุ่นเป็นรุ่น 70 ปุ๊บก็จะเจอการแจ้งเตือนว่ามีอะไรใหม่ ๆ บ้าง

มีการเปลี่ยนเรื่องการแสดงไซต์ที่เข้ารหัส กุญแจสีเขียวหายไปถูกเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับแถบที่อยู่แทน ในทางตรงกันข้ามไซต์ที่ไม่เข้ารหัสจะถูกกาหัวสีแดงชัดเจนว่า ไซต์ที่คุณเข้าอยู่มันไม่เข้ารหัสอะไรเลยยยยยย

มันช่างมืดเสียเหลือเกิน

มันช่างมืดเสียเหลือเกิน

พวกหน้าที่มีอยู่ใน Firefox ก็ได้รับการปรับให้เข้ากับโหมดโทนมืด/สว่างของระบบแล้ว รูปนี้ก็เป็นหน้าปรับแต่งที่ใช้โหมดหน้าจอมืดใน macOS

เพิ่มการรายงานการปกป้องความเป็นส่วนตัว (about:protections) ระบุได้เลยว่า อาทิตย์ที่ผ่านมาปิดกั้นอะไรไปบ้างใน Firefox ?

ตัวบ่งชื่อการเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้ง

ตัวบ่งชื่อการเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้ง

เพิ่มตัวบ่งชี้การเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้ง มีการบอกรายละเอียดที่ว่าเข้าถึงแบบชั่วคราวหรือถาวร และบอกได้ว่ามีการเข้าถึงครั้งล่าสุดเมื่อไหร่

Firefox Account

Firefox Account

Firefox Accounts ที่อยู่ตรงแถบเครื่องมือก็ถูกปรับแต่งเล็กๆ น้อยๆ และเพิ่มทางลัดไปบริการ Firefox Monitor และ Firefox Send

การเปลี่ยนแปลงปลีกย่อยอื่น ๆ ก็เช่น

  • มีตัว Baseline Interpreter ของ Javascript เข้ามาใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ 2-10% และลดการใช้หน่วยความจำลง ⚡️
  • รวมระบบ Firefox Lockwise เข้าหน้า about:logins ช่วยควบคุมและจัดการบัญชีและรหัสผ่านได้สะดวกขึ้น แถมเข้าถึงผ่านแอปมือถือได้ด้วยนะเออ ทั้ง Android และ iOS ?

และยังมีอีกเพียบ ลองตามอ่าน Firefox 70 for developers และเว็บเพื่อนบ้าน

สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูรายละเอียดฉบับเต็มได้จาก Firefox Release Notes (Desktop)

Continue reading …

เปิด Facebook ยังไงไม่ให้เสียเวลาด้วย News Feed Eradicator ⏳

หลายคนคงเป็นประจำว่า แค่เราจะเข้าไปเช็คอะไรบางอย่างใน Facebook เช่นการแจ้งเตือน หรือการอัปเดตภายในกลุ่ม แต่พอเห็นฟีดข่าวเท่านั้นแหละ เราก็เปิดดูไปเรื่อย ๆ จนลืมไปว่าเราเข้ามาใน Facebook เพื่ออะไร ทางแก้ง่ายที่สุดคือ ทำให้ฟีดข่าวหายไปซะ แน่นอนว่ามีคนประสบปัญหาแบบนี้เหมือนกัน เลยมีส่วนขยายเพื่อทำให้ฟีดข่าวหายไปซะ มันชื่อว่า News Feed Eradicator

ดาวน์โหลด News Feed Eradicator สำหรับ Chrome และ Firefox

พอติดตั้งเสร็จแล้วเปิด Facebook ขึ้นมามันก็จะเป็นหน้าตาแบบนี้ มีตัวเลือกการปรับแต่งให้นิดหน่อยว่าจะให้โชว์คำอ้างอิงไหม ง่ายๆ ไม่มีอะไร แค่นี้เราก็ไม่ต้องไปเสียเวลากับ Facebook โดยใช่เหตุครับ

หน้า Facebook หลังจากติดตั้งส่วนขยาย News Feed Eradicator

ตัวเลือกการปรับแต่งส่วนขยาย

ข่าวสั้นหมาไฟ #5: Firefox สดใหม่ทุกเดือน และ Firefox VPN

แผนผังการออกรุ่นในปี 2019 - 2020

แผนผังการออกรุ่นในปี 2019 – 2020 จะเห็นได้ว่าตั้งรุ่น 71 ขึ้นไปเปลี่ยนไปใช้รอบ 4 สัปดาห์แล้ว

Mozilla ปรับรอบการออก Firefox ให้เร็วขึ้น เป็นทุก 4 สัปดาห์: ตั้งแต่รุ่น 71 ขึ้นไป Firefox จะปรับรุ่นทุกเดือน การแก้บั๊กและคุณสมบัติใหม่ๆ ก็จะได้มาถึงผู้ใช้เร็วขึ้น

Core Animation ได้ถูกเปิดใช้งานบนรุ่น Beta แล้ว: หลังจากการเปิดใช้งานบน Firefox 70 การทดสอบเล็กๆ ก็ทำให้พบว่าการใช้พลังงานลดลงไปเยอะมากในรุ่น 70 ที่กำลังจะมาถึง

เปิดตัว Firefox Private Network: โดยบริการ VPN อันนี้จะเริ่มนำร่องใช้งานกับผู้ใช้ในสหรัฐฯ ก่อน ประเทศอื่นคอยจับตากันดูดี ๆ

Mozilla เตรียมเปิด DNS-over-HTTPS เป็นค่าเริ่มต้นในสหรัฐฯ และ Chrome 78 จะอัพเกรดไปใช้ DNS-over-HTTPS อัตโนมัติ: ทั้ง Google และ Mozilla กำลังเปิดใช้งาน DoH ในเบราว์เซอร์ตัวเอง ทำให้การเรียกดู dns นั้นปลอดภัยมากขึ้นเพราะถูกเข้ารหัสทั้งหมด

วิธีเปิดลิงก์ในเมนูหน้าต่างส่วนตัวของ Safari

เบราว์เซอร์ส่วนใหญ่สมัยนี้ ถ้าเราคลิกขวาที่ลิงก์มันก็จะมีเมนูให้เลือกว่า จะเลือกเปิดแบบโหมดปกติ หรือในโหมดหน้าต่างส่วนตัว อย่างใน Firefox ก็มีมาให้ตั้งนานนมแล้ว

เปิดลิงก์ในหน้าต่างส่วนตัวใหม่ของ Firefox

แต่คนที่ใช้ Safari บน macOS นั้น ดันไม่มีเมนูนี้ วิธีการเดิมที่ผมใช้คือ คัดลองลิงก์แล้วกด Shift-Command-N เพื่อเปิดหน้าต่างส่วนตัวแล้วเอาลิงก์นั้นไปแปะ ผมก็เลยต้องหาว่ามันน่าจะมีที่ง่ายกว่านี้สิ สรุปว่ามันมี!

ไม่มีเมนูเปิดลิงก์ในหน้าต่างส่วนตัว

วิธีการที่ว่าคือ แค่กด Option (หรือ Alt) ⌥ ตอนที่เมนูคลิกขวาปรากฏอยู่ มันก็จะมีเมนูย่อยที่ให้เลือกว่า เปิดลิงก์ในหน้าต่างส่วนตัวใหม่ แบบรูปข้างล่าง ก็นั้นแหละครับ ง่ายๆ ไม่ต้องลงส่วนขยายอะไรเลย

แค่กด Option ⌥ เมนูเปิดลิงก์ในหน้าต่างส่วนตัวใหม่ก็ขึ้นมาให้ใช้งานได้

แค่กด Option ⌥ เมนูเปิดลิงก์ในหน้าต่างส่วนตัวใหม่ก็ขึ้นมาให้ใช้งานได้

 

Firefox 69 รุ่นมหาบล็อค

น่าจะกล่าวได้ว่ารุ่น 69 นี้เป็นรุ่นที่เน้นการเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยขึ้นไปอีกหลายระดับ

การเปลี่ยนแปลงเด่นของรุ่นนี้ก็มี

  1. เปิดการป้องกันการติดตามที่มากขึ้น (Enhanced Tracking Protection) เป็นค่าปริยายสำหรับผู้ใช้ทุกคน โดยจะใช้ตัวเลือก มาตรฐาน
  2. เอาตัวเลือก `เปิดใช้งานเสมอ` ออกจากปลั๊กอิน Adobe Flash
  3. เพิ่มทางเลือกใหม่สำหรับวิดีโอที่เล่นอัตโนมัติ

เหมือนอย่างที่เคยรายงานไปแล้วก่อนหน้า ในรุ่นนี้ทุกคนก็ได้รับการปกป้องเหมือนกันหมด การป้องกันการติดตามที่มากขึ้นนั้นจะปิดกั้นอยู่ 3 อย่างคือ ตัวติดตามที่รู้จักเฉพาะในหน้าต่างส่วนตัว คุกกี้ติดตามจากบุคคลที่สาม และตัวขุดเหรียญดิจิทัล

ในรุ่น 69 สิทธิในการเล่นวิดีโออัตโนมัติ ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่เข้ามาคือ ปิดกั้นเสียงและวิดีโอ จากเดิมแค่ที่มีปิดกั้นเสียงอย่างเดียว ใครที่เข้าเว็บ CNET คงหายรำคาญ

ลาก่อนวิดีโอ CNET

ส่วนการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ของรุ่นนี้ก็มี

  1. userChrome.css และ userContent.css จะไม่ถูกโหลดใช้แล้ว ถ้าอยากใช้ต้องไปเปิดใน toolkit.legacyUserProfileCustomizations.stylesheets ของ about:config
  2. รองรับ Web Authentication HmacSecret ใน Windows Hello แต่ต้องเป็นรุ่น Windows 10 May 2019 หรือใหม่กว่า
  3. รองรับ WebRTC แบบหลายหลายตัวเข้าและถอดรหัส (multiple video codec)
  4. สลับการการใช้ GPU สำหรับ mac ที่มีการ์ดจอหลายตัว ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น และมีตัวบ่งบอกความคืบหน้าการดาวน์โหลดใน Finder ของ macOS เวลาที่ดาวน์โหลดไฟล์
  5. JIT รองรับสถาปัตยกรรม ARM64 แล้ว

และยังมีอีกเพียบ ลองตามอ่าน Firefox 69 for developers และเว็บเพื่อนบ้าน

สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูรายละเอียดฉบับเต็มได้จาก Firefox Release Notes (Desktop, Mobile)