วิธีเช็คว่าเว็บที่ตัวเองใช้เคยถูกแฮคแล้วหรือยังด้วย Firefox Monitor

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่เรื่องความปลอดภัยด้านไอทีข่าวนึงที่ถือว่าค่อนข้างน่ากลัวนั้นก็คือ อีเมลพาสเวิร์ดกว่า 773 ล้านแอคเคาท์ถูกแฮกและปล่อยโหลดแบบสาธารณะ แต่โชคยังเข้าข้างที่ว่ามีนักวิจัยด้านความปลอดภัยไปเก็บข้อมูลตัวนี้มาได้ เลยทำให้มีข้อมูลว่ามีเว็บไหน อีเมลอะไรที่หลุดออกมาบ้าง

ตอนนี้มีหลายหลายวิธีที่จะตรวจสอบได้ แต่พอดีว่า Mozilla มีบริการแบบนี้ด้วยเหมือนกันนั้นก็คือ เจ้า Firefox Monitor นั้นเอง (ข่าว Blognone)

เริ่มแรกก็ไปที่เว็บนี้ https://monitor.firefox.com/ และใส่อีเมลที่เรามีเข้าไป อันนี้ทาง Mozilla ก็รับประกันว่าจะไม่มีการเก็บอีเมลไปทำอย่างอื่นแน่นอน

หลังจากใส่เข้าไปก็มานั่งลุ้นว่าเราจะเจอแจ็คพ็อตอะไรบ้าง ซึ่งข้อมูลนี้ก็เป็นข้อมูลตัวเดียวกับ Have I Been Pwned อย่างผมก็เจอ 4 บริการที่เคยใช้

เจอแล้วทำไงต่อ?

  1. เปลี่ยนรหัสผ่านโดยทันที และใช้รหัสผ่านยาวและซับซ้อน ถ้ายังไม่เคยใช้ตัวจัดการรหัสผ่านก็ควรเริ่มเรียนรู้ที่จะใช้ ซึ่งก็มีหลายตัวให้เลือกใช้ Wiki: List of password managers โดยส่วนตัวแล้วผมเลือกใช้ BitWarden การใช้งานฟีเจอร์ขั้นพื้นฐานนั้นฟรี แบบเสียเงินก็ไม่แพง แถมยังเป็น Opensource ด้วย
  2. หลาย ๆ เว็บมีระบบยืนยันตัวหลายขั้นตอน (MFA, 2FA) ควรจะเปิดใช้ด้วย
  3. สมัครการส่งรายงานข้อมูลอีเมลของคุณกับ Firefox Monitor ซะ ถ้าเจอการหลุดครั้งหน้าก็จะมีอีเมลมาเตือน

Firefox 64 จัดการส่วนเสริมได้จากแถบเครื่องมือ

ใน Firefox 64 เน้นปรับดีไซน์หน้าภายในเสียเป็นส่วนใหญ่ เริ่มจากเราสามารถจัดการส่วนขยายได้จากแถบเครื่องมือ ถอนการติดตั้ง จัดการส่วนขยาย หรือเอาออกจากแถบเครื่องมือได้จากการคลิกขวาเพียงครั้งเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้นหน้า about:addons ก็ได้ถูกปรับดีไซน์หน้าส่วนเสริมให้เป็นการ์ดด้วยเลย

จัดการหลายแท็บแบบรวดเดียว โดยการคลิก Ctrl (หรือ Cmd บน macOS) บนแท็บที่ต้องการจะจัดการ แท็บไหนที่โดนเลือกจะมีไฮไลต์ปรากฏขี้นด้านบน หลังจากนั้นก็คลิกขวาแล้วเลือกสิ่งที่ต้องการจะทำเช่น ปิด ปิดเสียง หรือทำสำเนา

หน้า about:performance ถูกปรับใหม่ ดีไซน์ใหม่นี้เป็น task manager อย่างที่เห็นใน task manager ของระบบปฏิบัติการ หรือบน Chrome

ส่วนการปรับปรุงด้านอื่นก็มี

  • ใบรับรองที่ถูกสร้างโดย Symantec ไม่ได้รับการรองรับจาก Firefox แล้ว บางเว็บไซต์อาจจะมีปัญหาเข้าถึงไม่ได้
  • หน้า about:crashes ก็ถูกปรับดีไซน์เล็กน้อย แสดงผลวันเวลาที่ส่งข้อมูลให้กับ Mozilla
  • ตัวพรีวิว RSS และ Live Bookmark ถูกถอนออกไปเรียบร้อย เนื่องจากเป็นฟีเจอร์ที่คนใช้น้อย และบำรุงรักษาโค้ดยาก
  • การเติม .com ใน macOS ถูกเปลี่ยนจาก cmd + enter ไปเป็น ctrl + enter เหมือนกับระบบปฏิบัติการอื่น
  • แชร์เพจหรือลิงก์แบบ native บน Windows 10
  • ใช้ Link Time Optimization (LTO) บน macOS กับ Linux ช่วยทำให้ประสิทธิภาพของ Firefox ดีขี้นเล็กน้อย
  • สามารถใช้ WebVR ได้บน macOS

และยังมีอีกเพียบ ลองตามอ่าน Firefox 64 for developers และเว็บเพื่อนบ้าน

สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูรายละเอียดฉบับเต็มได้จาก Firefox Release Notes (Desktop, Mobile)

Firefox 65 รองรับ WebP แล้ว

หลักจากที่ Apple ได้จุดประกายว่า Safari จะรองรับ WebP ในเร็ว ๆ นี้ ทำให้เบราวเซอร์อื่นอย่าง Edge และ Firefox ที่สงวนท่าทียังไม่รองรับ WebP สักที ก็หันมาพิจารณาใหม่ว่าจะทำการรองรับ WebP ในอนาคต

ณ วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Bug 1294490 Implement WebP image support ก็ได้ถูกปรับสถานะเป็น RESOLVED บน Firefox 65 นั้นก็หมายความว่า รุ่น Nightly ที่ใช้อยู่ก็ใช้ได้ทันที แต่ต้องไปเปลี่ยนค่าใน about:config ให้ image.webp.enabled เป็นค่า true

ข้างล่างนี้เป็นหน้า WebP Gallery ของ Google เพื่อทดสอบว่าเบราว์เซอร์รองรับ WebP หรือเปล่า

Firefox 65 ที่ยังไม่รองรับ WebP

Firefox 65 ที่ยังไม่รองรับ WebP

ค่าเริ่มต้นของ image.webp.enabled อยู่ที่ false ในรุ่น Nightly

Firefox 65 ที่รองรับ WebP แล้ว

Firefox 65 ที่รองรับ WebP แล้ว

หลังจากตั้งค่า image.webp.enabled เป็นค่า true

ที่มา – Ghacks

Firefox 63 ปรับธีมสว่างมืดให้อัตโนมัติและบล็อคคุกกี้ได้ฉลาดขึ้น

ในรุ่น 63 ด้านการจัดการคุกกี้ รุ่นนี้ได้มีตัวเลือกใหม่ในการปิดกั้นคุกกี้จากบุคคลที่สาม (Third-party cookies) มาให้ในตัว ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับข้อมูลคุกกี้ของเรา ไม่แพร่กระจายไปจนควบคุมยาก แต่ตัวเลือกนี้จะถูกปิดไว้ก่อนในรุ่นนี้ แต่เราสามารถเปิดได้เองตามรูปข้างล่างนี้เลย

ตัวเลือก ไม่ต้องตรวจสอบการอัปเดต ได้ถูกตัดออกไป ทำให้ตอนนี้มีตัวเลือกอยู่สองทางคือ อัปเดตอัตโนมัติ กับตรวจสอบการอัปเดตและแจ้งเตือนผู้ใช้ เป็นการกระตุ้นให้ผู้ใช้หมาไฟนั้นอัปเดต Firefox อย่างสม่ำเสมอ

การปิด Firefox ในขณะที่มีหลายหน้าและแท็บ ได้เอาตัวเลือก บันทึกและปิดการทำงาน Firefox ออกไป จากนี้จะขึ้นคำเตือนก่อนปิดทุกครั้ง ถ้าต้องการให้ Firefox จำแท็บเดิม สามารถเปิดได้จากตัวเลือกด้านล่าง (ซึ่งผมใช้ประจำ)

การเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ใน Windows เริ่มจาก

  • เพิ่มตัดจัดการธีมบน Windows 10 ให้อัตโนมัติ สมมติถ้าเราตั้งให้ธีมมืดใน Windows ตัว Firefox ก็จะเปลี่ยนเป็นธีมมืดตามระบบปฏิบัติการให้
  • เปลี่ยนมาใช้ Clang toolchain ในการคอมไพล์ ซึ่งมีส่วนช่วยให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

ในส่วนของ macOS

  • ได้รีดความเร็วในการเปลี่ยนแท็บ
  • จัดการลำดับความสำคัญของ WebGL สำหรับ multi-GPUs ถ้างานไหนสำคัญน้อยจะสามารถเปลี่ยนไปใช้ GPU ตัวที่ต่ำกว่าทำงานแทนตัวหลัก

ด้านของ Linux ก็ได้แยกโพรเซสของ WebExtensions เป็นเอกเทศแล้ว

และยังมีอีกเพียบ ลองตามอ่าน Firefox 63 for developers และเว็บเพื่อนบ้าน

สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูรายละเอียดฉบับเต็มได้จาก Firefox Release Notes (Desktop, Mobile)

 

 

 

Firefox 62 เพิ่มคุณสมบัติในการจัดการไซต์และความเป็นส่วนตัว

ในรุ่น 62 นี้เน้นหนักในเรื่องความง่ายในการจัดการไซต์ อย่างแรกเลยก็คือ ตอนนี้เวลาเพิ่ม ที่คั่นหน้า เข้าด้วยการกดดาว จะมี favicon และรูปภาพตัวอย่างของเว็บที่เราเพิ่งเพิ่ม

อย่างที่สองคือ เพิ่มปุ่ม ล้างคุกกี้และข้อมูลไซต์ ในปุ่ม แสดงข้อมูลไซต์ ที่อยู่ทางซ้ายของแถบที่อยู่ กดปุ๊บก็จะมีหน้าต่างอธิบายรายละเอียด กด ตกลง อีกทีข้อมูลไซต์และคุกกี้ก็หายไปอย่างถาวร ช่วยให้การลบข้อมูลไซต์ต่าง ๆ ง่ายขึ้น

อย่างต่อมาคือ เพิ่มปุ่มเปิด/ปิด การป้องกันการติดตาม ได้จากปุ่มแฮมเบอเกอร์ ☰ ทำให้เราควบคุมการติดตามได้ง่ายขึ้นมาก ๆ

ฟีเจอร์สุดใหม่อันสุดท้าย คือเพิ่งตัวจัดการแถวในหน้าแรกไซต์และรายการเด่น สามารถเพิ่มลดได้ตั้งแต่ 1 ถึง 4 แถว

การเปลี่ยนแปลงปลีกย่อยอื่นๆ ก็มี

  • เอาแถบเครื่องมือนักพัฒนาออกเพราะไม่ค่อยมีคนใช้ (แต่ผมใช้รันคำสั่ง restart บ่อยมาก เสียดายจริงๆ)
  • เอาฟิลด์คำอธิบาย (description) ออกจากตัวจัดการที่คั่นหน้า

และยังมีอีกเพียบ ลองตามอ่าน Firefox 62 for developers และเว็บเพื่อนบ้าน

สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูรายละเอียดฉบับเต็มได้จาก Firefox Release Notes (Desktop, Mobile)

Firefox 61 เรียกหน้าไวขึ้นและกลับมาเพิ่ม Opensearch ได้แล้ว

Firefox 61 รอบนี้มีการปรับหลาย ๆ ส่วนทั้งภายในและภายนอก หลายคนอาจจะสังเกตได้ว่า​ Firefox 61 มันเร็วขึ้นกว่าเดิม มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรใหม่บ้าง

หลังจากหายไป (ที่จริงคือถูกซ่อน) ของแถบค้นหาใน Firefox 57 ทำให้การเพิ่ม open search สำหรับไซต์ที่รองรับนั้นทำได้ยากยิ่ง แต่ตอนนี้มันก็กลับมาแล้ว แค่คลิกที่ปุ่ม … และก็คลิก เพิ่มเครื่องมือค้นหา ก็กลับมาหาได้เรียบร้อย

แยก หน้าแรก ออกมาเป็นหน้าใหม่ ทำให้การปรับแต่งหน้าแรกหรือ Home ทำได้ง่ายขึ้นกว่าเก่า ไม่ปะปนกับการปรับแต่งอันอื่น

บน ​​macOS ได้มีการเพิ่ม Share Extensions แบบเดียวกันกับที่มีอยู่ใน Safari ทำให้การแชร์ลิงก์ไปยังแอปอื่นสะดวกยิ่งขึ้น ส่วนตัวผมใช้ Telegram อยู่แล้วเลยทำให้แชร์ลิงก์คล่องขึ้นมาก ๆ

การเปลี่ยนแปลงภายในที่สำคัญ ๆ ก็มีอยู่เยอะเช่น

  • เปิดใช้งาน TLS 1.3 เป็นค่าเริ่มต้น
  • ปรับ Dark Theme ให้สอดคล้องกันมากขึ้น
  • ใช้ Tab Warming ใน Windows กับ Linux (macOS ติดบั๊ก) เมื่อเราเอาเมาส์ไปจ่อแท็บที่เปิดอยู่ มันจะโหลดหน้ามารอให้ เมื่อเราคลิกหน้าเว็บก็จะโหลดมาให้เราเลย
  • ปรับ Quantum CSS ให้วาดหน้าเว็บให้เร็วขึ้นเรื่อย
  • บน macOS ตัว WebExtensions มีโพรเซสแยกออกมาแล้ว

และยังมีอีกเพียบ ลองตามอ่าน Firefox 61 for developers และเว็บเพื่อนบ้าน

Firefox 61 กับความ Dark มากกว่าที่เคย

สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูรายละเอียดฉบับเต็มได้จาก Firefox Release Notes (Desktop, Mobile)

Firefox for iOS 12 ดาวน์โหลดไฟล์เก็บลงแอพได้แล้ว

Firefox iOS เวอร์ชัน 12 ได้เพิ่มคุณสมบัติเด่น ๆ เข้ามา 3 อย่างคือ

  • เพิ่มความสามารถในการดาวน์โหลดและบันทึกไฟล์ลงในแอป เช่น PDF หรือ วิดีโอ
  • การแชร์ลิงก์เข้าสู่ Firefox สามารถเลือกได้หลายการกระทำว่าจะทำอะไรบ้าง เช่น โหลดในเบื้องหลัง เพิ่มเข้าสู่รายการอ่าน หรือส่งต่อไปยังอุปกรณ์อื่น
  • ตรวจสอบสถานะการ Sync ได้ภายในคลิกเดียว

Continue reading …

วิธีเปิดใช้งาน DNS over HTTPS บน Firefox 62 ขึ้นไป

DNS over HTTPS หรือเรียกย่อ ๆ ว่า DOH เป็นโปรโตคอลตัวใหม่ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการท่องเว็บ คุณสมบัติของมันอย่างย่อคือ เรียกดูข้อมูล DNS แบบเข้ารหัสโดยใช้ HTTPS ทำให้การปลอมแปลงข้อมูล DNS ตอนเราเรียกดูเว็บยากขึ้นมาก

แนะนำให้ดูการ์ตูนใน Mozilla Hacks ซึ่งเขียนและวาดออกมาได้ดีมาก

Firefox 62 สถานะของเวลานี้คือ Nightly หรือรุ่นที่ใหม่กว่านี้ก็ได้เริ่มการรองรับแล้ว แต่เราต้องไปเปิดใช้งานกันเอาเองผ่าน about:config Continue reading …

ใช้ Google Hangouts บน Firefox ได้อีกครั้งแล้วด้วย WebRTC

หลังจากที่ Firefox 52 ได้ปิดการใช้งาน Netscape Plugin API (NPAPI) ทำให้ Google Hangouts (หรือ​ Meet ในรุ่นองค์กร) นั้นใช้การไม่ได้โดยปริยายใน Firefox แต่ใช้ได้บน Chrome เพราะทางฝั่งบริการ Hangouts ได้ใช้ WebRTC แบบที่ได้ใช้ได้กับ Chrome เท่านั้น (มาตรฐาน!)

ทั้งนี้ทั้งนั้น Google และ Mozilla ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามแก้ไขปัญหานี้กันอยู่ และวันนี้ทาง Mozilla ก็ได้เขียนบล็อกประกาศออกมาแล้วว่า ณ บัดนี้เราสามารถใช้ Google Hangouts (และ​ Meet) บน Firefox ได้แล้ว โดยทาง Google ก็เป็นฝ่ายปรับบริการให้ใช้ WebRTC บน Firefox และทาง Mozilla ก็ได้เพิ่มคุณสมบัติเข้าไปใน WebRTC ทางฝั่ง Firefox จนตรงกับความต้องการของ Google Meet

สรุปโดยย่อว่า Hangouts ต้องการแค่ Firefox 56 ขึ้นไป ส่วน Meet นั้นต้องการ Firefox 60 (เข้าใจได้ว่าต้องรอ ​Firefox Quantum ESR ออกก่อนถึงประกาศการรองรับนี้)

ที่มา – Advancing WebRTC

Firefox 60 รองรับ Web Auth API และเปิดใช้ Stylo ในแอนดรอยด์

 

ภายนอกของ Firefox 60 ไม่มีอะไรใหม่ ของส่วนใหญ่ที่เพิ่มเข้ามาส่วนใหญ่ก็อยู่ทางฝั่งเว็บเทคโนโลยี ซึ่งรุ่นนี้ก็ออกมาพร้อมกับรุ่น ESR ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Quantum ที่รุ่นปกติได้ใช้ตั้งแต่รุ่น 57 แล้ว

การเปลี่ยนแปลงในส่วนของรุ่น 60 สะดวกมากขึ้นสำหรับผู้ใช้ระดับองค์กร เพราะในรุ่นนี้ได้เพิ่ม Policy Templates (https://github.com/mozilla/policy-templates) ช่วยให้แอดมินในองค์กรกำหนดค่าสำคัญได้เองผ่าน Local Group Policy Editor (บน Windows) หรือผ่านไฟล์ JSON ยกตัวอย่างเช่นถ้าต้องการปิดไม่ผู้ใช้แก้ค่าใน about:config ก็ไปกำหนดค่านี้

{
  "policies": {
    "BlockAboutConfig": true
  }
}

การกำหนดของ ข้อมูลคุกกี้และไซต์ ได้เอาการจัดการคุกกี้ออก และสร้างหน้าต่างใหม่ที่ชื่อว่า จัดการคุกกี้และข้อมูลไซต์ ซึ่งเวลาเราเลือกลบข้อมูลแต่ละไซต์นั้น ๆ ก็เป็นเอาข้อมูลของคุกกี้และ Web Storage ในคราวเดียวกัน

การเปลี่ยนแปลงปลีกย่อยต่าง ๆ

  • ใช้ Stylo (Quantum CSS)  ในส่วนของ UI ใน Firefox Desktop
  • Firefox Android ก็ได้เปิดใช้งาน Stylo อย่างเป็นทางการ
  • รองรับ Web Authentication API ช่วยให้ใช้ two-factor authentication (2FA) ผ่านฮาร์ดแวร์อย่าง Yubikey หรือ U2F Zero
  • WebVR API เปิดใช้เป็นค่าเริ่มต้นใน macOS (Windows มาก่อนหน้านี้แล้ว)
  • ปรับปรุง WebRTC ในส่วนของเสียงบน ​Linux
  • ใบรับรอง https ของ Symantec ที่ออกก่อนปี 2016 ได้ถูก distrust แล้ว ถ้าเว็บไหนที่ใช้ใบรับรองนี้จะเห็นหน้าคำเตือนก่อนเข้าเว็บ

และยังมีอีกเพียบ ลองตามอ่าน Firefox 60 for developers และเว็บเพื่อนบ้าน

สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูรายละเอียดฉบับเต็มได้จาก Firefox Release Notes (Desktop, Mobile)